3469 Views |
ในตอนที่ 1 เรากริ่นนำในเรื่องของเหตุผลว่าทำไมการสร้างแบรนด์เครื่องสำอางจึงมีโอกาสจับเงินล้านได้ สำหรับตอนที่ 2 เรามาเตรียมความพร้อมในการสร้างแบรนด์ และขั้นตอนการก่อร่างสร้างธุรกิจกันครับ ต้องบอกกันก่อนนะครับว่า บทความของผมจะเน้นไปในทางสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ประเภทสบู่ ครีม โลชั่น เซรั่ม การหาตลาดออนไลน์ เป็นหลักนะครับ เพราะว่าถนัดทางด้านนี้มากกว่า สินค้าอื่นๆ ก็สามารถเอาหลักการไปใช้ได้นะครับ
คุณผู้อ่านและลูกค้าของผมหลายคนที่สนใจผลิตสบู่ ครีม โลชั่น เซรั่ม ไลน์หรือโทรเข้ามาสอบถามเพราะสนใจในสินค้า คุยแล้วเข้าใจได้เลยว่า ไม่รู้จะเริ่มต้นการทำธุรกิจอย่างไรดี คำถามบางคำถามก็ไม่น่าถาม เช่น “ถ้าหนูจะผลิตครีม หนูจะต้องบรรจุขนาดเท่าไหร่ค่ะพี่ แล้วจะขายเท่าไหร่ดี” ฟังแล้วทราบได้ทันทีว่า ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์ยังไม่มี ความรู้ด้านการตลาดยังไม่เกิด กลุ่มลูกค้าเป้าหมายไม่ชัดเจนเลย เพราะจากคำถามหากผมตอบไปว่า “บรรจุหลอด 100 กรัมสิครับ ขายปลีกสัก 500 บาท” จะมีคำถามตามมาทันทีว่า “โห! พี่ มันไม่แพงไปหน่อยหรือค่ะ แล้วจะขายได้เหรอ” เห็นมั้ยครับว่า ยังไม่รู้เลยว่าจะเอาสินค้าไปขายใคร ดังนั้น การเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง หรือเพื่อธุรกิจใดๆ ท่านจะต้องรู้ให้ได้ก่อนว่า “ท่านจะเอาไปขายใคร” ตั้งกลุ่มลูกค้าให้ได้ว่าเป็นใคร ผมจึงขอสรุปการเริ่มต้นทำธุรกิจเครื่องสำอางให้คร่าวๆ ดังนี้ครับ
1. กำหนดสินค้าที่เราต้องการจะสร้างแบรนด์หรือจะขาย ว่าเราสนใจ ตลาดสนใจ คนรอบข้างสนใจ ออกมาก่อน เพื่อจะได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น สนใจอยากทำแบรนด์สบู่เพราะเห็นเพื่อนๆ ซื้อมาใช้กันหลายคน สนใจอยากจะผลิตครีมบำรุงผิวเพราะใช้เองเป็นประจำจนมีคนรอบข้างสอบถามว่าไปทำอะไรมา ผิวสวยขึ้น
2. ค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก่อนที่จะโทรหรือไลน์ไปถามโรงงานผลิตสบู่ ผลิตครีม ขอให้ทำการบ้านข้อนี้ก่อนสักนิดนึง ขอให้ลองนั่งหาข้อมูลเพื่อสรุปออกมาว่าเราจะขายสินค้าที่เราเลือกมาจากข้อที่ 1 นั้นกับใคร ผมแบ่งตลาดให้เห็นภาพใหญ่ๆ ตามนี้ครับ
a. ตลาดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ไม่สูงมาก ลูกค้ากลุ่มนี้จะซื้อสินค้าตามตลาดนัดหรือร้านค้าใกล้บ้าน ราคาของสินค้าไม่สูง ซื้อ 1 แถม 1 จะชอบมาก
b. ตลาดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ แบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อย กลุ่มแรก นับตั้งแต่นักเรียนมัธยมต้น จนถึงนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือจนถึงจบใหม่เริ่มเข้าทำงาน กลุ่มนี้จัดว่าเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของตลาดเครื่องสำอางออนไลน์เลยก็ว่าได้ เพราะกลุ่มนี้จะซื้อสินค้าออนไลน์ หรือไม่ก็ร้านสะดวกซื้อ ชอบอ่านรีวิวสินค้า เชื่อคำบอกเล่าประสบการณ์ของผู้เคยใช้สินค้า กล้าที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ ส่วนกลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มที่จบมานานพอสมควร มีเงินเดือนมากพอที่จะซื้อสินค้าแบรนด์เครื่องสำอางดังๆ ที่วางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า กลุ่มนี้จะเลือกสินค้า เปรียบเทียบกับแบรนด์ดังๆ เทียบราคา ก่อนตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าสินค้ามีความแตกต่างที่ท้องตลาดไม่มีก็ยินดีซื้อมาทดลองใช้ ซื้อสินค้าออนไลน์เป็นประจำ
c. ตลาดสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคุณพ่อ คุณแม่ มีอายุเฉลี่ย 35 ปีขึ้นไป ลูกค้าตลาดนี้จะตัดสินใจซื้อได้ยากกว่าทั้งสองตลาด แต่มีกำลังซื้อมากกว่าทั้งสองตลาด หากผลิตสินค้ามาขายตลาดนี้แล้วตั้งราคาที่ต่ำเกินไป ลูกค้ากลุ่มนี้จะมองว่าสินค้าคุณภาพไม่ดีเท่าที่ควร
เห็นมั้ยครับว่าการค้นหากลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ (ใช้คำว่า “ค้นหา” นะครับ ยังไม่ได้ “กำหนด”) เพราะจะทำให้เราสามารถกำหนดราคาขาย และกำหนดต้นทุนการผลิตได้ เพราะถ้าตลาดขายสบู่ที่ 3 ก้อน 100 บาท แล้วคุณจะผลิตสบู่ขายก้อนละ 80 บาท ลงทุนโฆษณาสินค้าอย่างไรก็ไม่อาจขายได้หรือขายได้ก็น้อยครับ จำไว้ครับว่า ตลาดจะเป็นผู้กำหนดราคาขาย ไม่ใช่เอาสูตร ต้นทุน + กำไร แล้วตั้งเป็นราคาขายมาใช้ มันใช้ในสมัยนี้ไม่ได้แล้วครับ ยกเว้นเสียแต่ว่าสินค้านั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะ ไม่เหมือนใคร
ข้อต่อไปไว้อ่านต่อในตอนที่ 3 นะครับ แต่ก่อนจบตอนที่ 2 ผมมีแบบฝึกหัดให้ไปทดลองทำดูกันครับ ตอบคำถามด้านล่างนี้ดูนะครับ แล้วจะมาเฉลยในตอนที่ 3
ถ้าคุณคิดจะผลิตสบู่สำหรับเด็ก เป็นรูปสัตว์ รูปร่างน่ารักๆ ที่เด็กๆ เห็นเป็นต้องชอบ ขอให้คุณระบุกลุ่มเป้าหมายสินค้าสบู่สำหรับเด็กนี้หน่อยครับ ว่าลูกค้าคือใคร